วิ่งกลับเผ่าอย่างไวและไฟท์น้ำหนักนิ่งด้วย Up day - Down day🏃🏻‍♀️

หายไปพาลูกเที่ยวช่วงปิดเทอม หลุดออกนอกจักรวาลคีโตไปเลยเพราะอยากลองอาหารพื้นเมือง(บวกกับกินของเหลือของเด็ก ซึ่งเด็กเข้าใจว่าแม่ทุกคนมีหน้าที่กินของเหลือของลูกซะงั้น) กลับมาแทบไม่อยากชั่งน้ำหนักให้ร้าวรานใจ แต่ไม่เป็นไรจ้ะ กลับมากินคีโตปกติก็รีดน้ำหนักได้ใน 3-5 วัน แต่วันนี้มาบอกวิธีสู้น้ำหนักนิ่งไปด้วย

ดิฉันรู้จัก Up day-Down day diet มาตั้งแต่สมัยเป็นสาวออฟฟิศสีลม(มากกว่า 15 ปีที่แล้ว) ชื่อเต็มคือ Johnson’s Up Day Down Day Diet ตัวย่อว่า JUDDD โดย Dr. James Johnson ผู้ทำการศึกษาเกี่ยวกับผลของ alternate-day calorie restriction คือการจำกัดแคลอรีวันเว้นวัน วิธีของคุณหมอจอห์นสันคือให้กินปกติวันนึง อีกวันกินแค่ 500 แคลอรี จะสามารถลดน้ำหนักได้

ชะนีอยากผอมตอนนั้น ผู้กินปกติ ติดขนม หนักแป้ง ทำตามได้อยู่ไม่ถึง 2 อาทิตย์ คือไม่รอด วันที่กิน 500 แคลอรีคือลงแดง แถมยังไม่รู้จัก intermittent fasting ด้วย

วันนี้ที่วิชาแก่กล้า ความรู้แน่นทั้งคีโตและ if พบว่าถ้าเอา JUDDD มาประยุกต์ มันสามารถเป็นวิธีหลอกร่างกายให้น้ำหนักขยับและระบบเผาผลาญไม่พังอย่างได้ผลทีเดียว Up Day - Down Day สำหรับชาวคีโตของดิฉันจะทำแบบนี้นะคะ

1.คุณต้องคำนวณ BMR และ TDEE ให้เรียบร้อย พร้อมหาโควต้าสารอาหารแต่ละตัว https://www.thaiketopal.com/keto-calculator

2.วัน Up Day ตั้งโควต้าแคลอรีไว้ที่ TDEE หรือ TDEE-10% กินอาหารคีโตตามสัดส่วนที่คำนวณได้มา จะเป็นกรัม หรือนับช้อนก็ได้(เลือกเอาซักทางสิจ๊ะเธอ อย่าเอามาปนกัน) ห้ามกินน้อยกว่า BMR เด็ดขาด

3.วัน Down Day กินแค่ครึ่งเดียวของโควต้าวัน Up เช่น Up day กินได้ 1500 แคลอรี Down day จะกินได้ 750 แคลอรี

4.ถ้าทำได้ Down day คือ if แล้วกินมื้อเดียวหรือ 2 มื้อให้อิ่มไปเลย

5.สัดส่วนสารอาหารคีโตวัน Down อาจไม่ต้องเป๊ะ แต่ถ้าเน้นกินไขมันให้เยอะ จะอิ่ม ไม่หิว ถ้ากินเนื้อสัตว์เยอะจะเหมือนไม่อิ่ม

6.Down day เน้นการจำกัดแคลอรีเป็นหลัก ฉะนั้นสามารถกินเม็ดแมงลัก ผักใบเขียว หรือไฟเบอร์อื่นใดที่ไม่มีแคลอรีหรือแคลอรีต่ำเป็นตัวช่วยให้อิ่มได้

7.ทำ Up Day - Down Day สลับกันไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะได้ผลที่ต้องการ แต่อย่าทรมานตัวเอง ไม่ไหวอย่าฝืน คุณไม่ได้แข่งกับใคร

ขั้นสุดของ Up Day - Down Day คือ Alternate-day fasting หรือการกินอาหารวันเว้นวัน ถ้านับเวลาฟาสจะเกิน 24 ชั่วโมงขึ้นไป แล้ววันรุ่งขึ้นกินปกตินั่นเอง

ร่างกายเรามันฉลาด ถ้าทำอะไรไปนานๆมันจะปรับตัวได้ เราต้องหาวิธีหลอกมันไปเรื่อยๆค่ะ Up Day - Down Day นี่เป็นแค่วิธีนึงเท่านั้น

ย้ำอีกทีว่าอย่าดูแต่ตัวเลขบนตาชั่ง วัดสัดส่วน ส่องกระจก หรือลองเสื้อผ้าดู เราไม่ได้มีเลขน้ำหนักแปะที่หน้าผาก ถ้าเราดูดีและพอใจสิ่งที่เห็นในกระจก จะไปสนคนอื่นทำไมคะ

ไอซ์ ผู้กำลังรีดน้ำหนักจากทุเรียน